การสร้างตราสินค้า

การสร้างตราสินค้า

5 กลยุทธ์สร้างแบรนด์ธุรกิจ Business Branding ระดับโลก

1. ใช้อินเทอร์เน็ต (Internet) และช่องทางทำการตลาดออนไลน์มาช่วยในการสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ มีคนใช้อินเทอร์เน็ต มากกว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนคนเหล่านี้ให้เป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ อย่างน้อย 1% แล้ว โอกาสที่แบรนด์ของคุณจะประสบความสำเร็จอย่าง แบรนด์ระดับโลกกก็มีความเป็นไปได้สูง2. ขายสินค้า/บริการตรงไปสู่ผู้บริโภค (Direct to Customer) แบรนด์ดังระดับโลกอย่าง แอบเปิล ,กูเกิล สร้างช่องทางในการสร้างรายได้/บริการโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าของแบรนด์ ลดค่าใช้จ่าย และง่ายต่อการบริหารจัดการยกตัวย่างเช่น การทำโฆษณาผ่านบริการของ Google นั้นสร้างรายได้ให้กับ Google ในปี 2553 นั้นประมาณ 8 แสนกว่าล้านบาท (28,000 ล้านเหรียญ) ในส่วนของ Apple นั้นมีการคาดการว่าจะสร้างรายได้จากสินค้าที่ขายใน App store หรือ iTune store ได้ 13,000 ล้านเหรียญ ภายในปี 2013 นั้นเอง3. ใช้กลยุทธ์หางยาว ( LongTail Business) คือกลยุทธ์ที่ต่อยอดการสร้างรายได้นอกเหนือจากการขายสินค้า/บริการหลักของบริษัท ด้วยสินค้า หรือบริการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ไมโครซอฟท์ ที่ขายทั้งซอฟต์แวร์,ขายบริการ/เทรนนิ่ง, ขายเครื่องเล่นเกมส์ XBox , ส่วน Apple ที่ขายทั้งสินค้า ฮาร์ดแวร์ อย่างตัวคอมพิวเตอร์ ไอโฟน ไอพอด ไอแพด จนกระทั่งซอฟต์แวร์ และ การบริการหลังการขาย…
4. การสร้างนวตกรรมใหม่ๆ (Innovation) บริษัทที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วอย่าง Google,Apple, Microsoft ที่สร้างตัวเองจากการนำเสนอนวตกรรมใหม่ หรือพัฒนารูปแบบของสินค้า และบริการใหม่ทุกๆ ปี เพื่อสร้างรายได้ และเพื่อแบ่งส่วนแบ่งการตลาดกูเกิล ใช้เวลา 12 ปี เพื่อมาติดอยู่ใน 1 ใน 5 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ เติบโตจากบริษัทซอฟต์แวร์เล็กๆ ที่นำเสนอระบบปฏิบัติการ Window ที่ปฏิวัตรวงการคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ หรือ Apple ที่ให้เราได้ใช้คอมพิวเตอร์คุณภาพสูง5. โมเดลทางธุรกิจที่สร้างความแตกต่าง (Differential Business Model) โมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ นั้นเกิดขึ้นได้ทุกวัน โดยเฉพาะการทำการตลาดผ่านอินเทอร์เน็ต หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี อย่างเช่น เว็บไซด์ Groupon.com ที่รวมส่วนลดและข้อเสนอพิเศษ 50% ผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเป็นโมเดลทางธุรกิจ ที่ทำให้มูลค่าของ Groupon.com มีมากถึง 5 แสนล้านบาท (18,000 ล้านเหรียญ) หลังจากบริษัทเปิดตัวได้ 2 ปีกว่าๆ ในปี 2010